ผู้เขียน หัวข้อ: "ช้างศึก"ป่วนนฤบดินทร์เจ็บหัวไหล่รอลุ้นหายทันเกมฟัดจิงโจ้  (อ่าน 5505 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

มหาเทพจุติ

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 892
    • ดูรายละเอียด

   ทัพ "ช้างศึก"ป่วน "เจ้าต้น'นฤบดินทร์ วีระวัฒน์โนดม ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ระหว่างซ้อมจากจังหวะเข้าปะทะกับ อดิศร พรมรักษ์ ต้องนำตัวส่งพยาบาลเช็กอาการบาดเจ็บว่าจะกลับมาทันเกมเจอออสซี่หรือไม่

ทัพ "ช้างศึก"ทีมชาติไทย ชุดเตรียมแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย และ ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 โดยทัพ “ช้างศึก” เดินทางมาเก็บตัวที่แคมป์ กิเลน วัลเลย์ จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 13 พฤศจิกายน

ล่าสุด เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นำลูกทีมกลับลงฝึกซ้อมอีกครั้ง หลังปล่อยนักเตะพักมาเมื่อวาน โดยโปรแกรมในช่วงเช้านั้นเน้นวอร์มร่างกายเบาๆ โดยคาดเพียง ธนบูรณ์ เกษษรัตน์ ที่ติดภารกิจเดินทางไปเปิดตัวกับต้นสังกัดใหม่ เชียงราย ยูไนเต็ด ก่อนที่ช่วงเย็น “เจ้าตั้ม” จะกลับมาซ้อมตามเดิม

โดย "ซิโก้" ได้นำทีมลงซ้อมรูปแบบแท็คติกกันครั้งแรก ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชั่วโมง ปรากฎว่าต้องมีเรื่องให้ปวดหัวเมื่อมีนักเตะได้รับอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมเป็นจังหวะที่ "เจ้าต้น"นฤบดินทร์ วีระวัฒน์โนดม แบ็กขวาตัวเก่งไปปะทะกับ "เจ้าเก่ง"อดิศร พรมรักษ์ จนแข้งจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็กอาการบาดเจ็บเป็นการด่วน

หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม เฮดโค้ชทีมชาติไทยเผยว่า "แท็คติกวันแรกเด็กๆค่อนข้างที่จะตื่นตัวและเรียนรู้ได้เร็ว จริงๆแล้วเราเองก็เล่นกันมานานแล้ว ทุกคนเดินเกมได้ดี ทุกคนแข่งขันกันดี"

"ส่วนผู้เล่นบาดเจ็บ ธนา ชะนะบุตร เองก็ใกล้กลับมาซ้อมได้ และข่าวดีวันนี้คือ "ตั้ม"ธนบูรณ์ เกษารัตน์ สามารถกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้ว ขณะที่ อาการบาดเจ็บของ "ต้ย"นฤบดินทร์ นั้นก็ต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บจากโรงพยาบาลอีกทีว่าจะหายทันกลับมาทันเกมเจอออสเตรเลียหรือไม่"

สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่มีโปรแกรม แข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม นัดที่ 5 พบทีมชาติออสเตรเลีย ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน รวมถึง ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ระหว่างวันที่ 19 พฤศจิกายน – 17 ธันวาคม 2559 โดยทีมชาติไทยอยู่ในสายเอร่วมกับ ฟิลิปปินส์ (เจ้าภาพ), สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย